.
ในเวที Grand Audi Stage ที่จัดโดย Grey Group นั้น Marilyn Manson ได้รับเชิญให้มาพูดถึงการสร้างภาพลักษณ์ให้จดจำ ซึ่งก็เหมาะสมแล้วเพราะ Marilyn Manson ถือเป็นศิลปินที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น ใครเห็นเป็นต้องจำได้ ด้วยทาหน้าสีขาว ขอบตาสีดำ และปากสีแดง ซึ่งเด็กดูแล้วอาจเก็บไปฝันร้ายได้เลย
.
Brian Hugh Warner คือชื่อจริงๆของเขา แต่เขาเลือกที่จะใช้ชื่อ Marilyn Manson เพราะมาจาก Marilyn Monroe ดาราสาวชื่อดังเจ้าของผลงานโพสท่าสุดเซ็กซี่ ส่วน Manson นั้นมาจาก Charles Manson ฆาตกรชื่อดัง โดยหมายถึงชื่อเสียงจากด้านที่ดี และไม่ดี (Marilyn Manson หรืออาจรู้จักเขาในอีกชื่อคือ Brian Hugh Warner หากเป็นแฟนตัวยง)
มันง่ายที่จะสร้างอะไรที่มันไม่ใช่ของจริงขึ้นมา แต่จุดหนึ่งในใจของผม นั่นคือของจริง สิ่งที่ผทแสดงออกมาคือเรื่องจริง คุณไม่สามารถขายอะไรที่มันปลอมทั้งหมดได้ สิ่งที่แตกต่างของผม ระหว่างในนอกเวที และในเวที คือนอกเวที ผมจะคุยกับคนที่ผมรู้จัก แต่ในเวทีผมจะพูดคุยกับคนที่ผมไม่รู้จักมาก่อน
.
คงรู้ว่าไม่ใช่แค่เป็นนักร้องในฐานะนักร้องนำวงที่มีชื่อเดียวกันกับเขา แต่ผู้ชายที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเนื้อร้องเสียดสีสังคม การแต่งหน้า และสไตล์การเล่นเพลงที่เป็นจุดขายที่ทำให้เขามีชื่อเสียง เขายังเป็นนักแต่งเพลง , นักแสดง , จิตรกร และศิลปินมัลติมีเดีย อีกด้วยครับ
.
ซึ่งดูแค่ผิวเผินเราแทบจะไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำว่าเขามีความสามารถมากมายขนาดนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น คือสิ่งที่ทำให้ไบรอัน กลายมาเป็นมาริลีน แมนสัน คงต้องลองย้อนกลับไปดูการเลี้ยงดู ที่เติบโตมากับคุณพ่อชาวร็อค ที่เรียกว่าได้ว่า เหมือนกับยังกับแกะ ตามสำนวนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียวครับ
.
อาจจะบอกได้ว่าพ่อของ Manson คือ คนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สร้างสุนทรียภาพในการแสดงของเขา แถมคุณพ่อของ Marilyn Manson เซอไพรส์ลูกด้วยการทำตัวเหมือนลูกซะเลย ด้วยการแต่งตัวคล้ายๆ กัน ในชีวิตประจำวัน ก็จะเห็นความทะเล้นในตัวคุณพ่อที่แกล้งลูกๆ ในบ้านอย่างสนุกสนาน สไตล์การเลี้ยงลูกของพ่อที่ Manson ได้รับมานั้นมากมายจน
.
มีการสัมภาษณ์ Manson ลงในนิตยสาร Paper โดยที่เขาเปิดเผยว่าการเสียชีตขอแม่ ทำให้เขาใกล้ชิดพ่อมากขึ้น และนี่กลายเป็นผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์เป็นอย่างมาก ในการสร้างสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 9 ของเขา ในชื่อว่า "The Pale Emperor" ออกเผยแพร่ในเดือนมกราคม ค.ศ.2015
.
ด้วยความที่ใกล้ชิดกับพ่อมากขึ้น เขาก็ซึมซับเอาสิ่งที่พ่อเขาเป็นเข้ามาสู่ตัวตนของเขา จนกลายเป็นคนที่ให้ความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล
.
แต่สิ่งที่เปลี่ยนเด็กชายวัยใสคนหนึ่งให้กลายเป็นคนที่ดูเหมือนจะมีแววเป็นตัวร้ายนับถือซาตาน แปลกแยกจากสิ่งที่สังคมเชื่อ ซึ่งอาจจะมาจากการสอนในโรงเรียนเกี่ยวกับพระคริสต์ ว่ามารคือตัวการที่กำลังทำให้โลกเข้าสู่สิ้นสุด แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทำให้เขาหมดศรัทธา เข้าสู่ลัทธิบูชาซาตานอย่างเต็มตัว
"ครั้งแรกที่ผมเห็นพ่อแต่งหน้าเป็นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และครั้งที่สองในคอนเสิร์ตที่พ่อของเขาแต่งตัวเหมือน Gene Siแมนสันons ในการทัวร์ Dynasty ของวง KISS ช่วงนั้นเขาอายุเพียงแค่ 11 ขวบ แถมยังได้เห็นผู้คนมากมายเข้ามาขอลายเซ็นต์ของพ่อ"
.
Manson ยังกลายเป็นคนที่เรียกว่าคนทั้งโลก มักจะรุมรังเกียจและประณามเอกลักษณ์อันชั่วร้ายของเขา บางเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้เป็นคนก่ออย่างเหตุเด็กสองคนควงปืนขึ้นมายิงเหล่าเพื่อนและครูในโรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ แมนสันกลายเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของการชักใยไปซะงั้น...
.
การถูกขับไล่ออกจากสังคม กลายเป็นบทเพลงที่เขาร้องในชื่อว่า Coma White ในวรรคที่ร้องว่า
"ou were from a perfect world
A world that threw me away today
Today to run away"
.
มันแสดงถึงภาวะแปลกแยก (Alienation) ที่เราทุกคนล้วนแต่รู้สึกได้ในยุคโลกาภิวัตน์ เราบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกโลกถีบหัวส่งออกมา แต่ต่างไปที่ว่า แมนสัน ไม่ยอมและถีบโลกนั้นกลับไป
.
you ในเนื้อเพลงจึงอาจหมายถึง เสียดสีเหล่าคนที่ทำตัวเป็นผู้คุมกฎเป็นพระเจ้า หากเช่นนั้นเขาก็ยอมที่รับบทเป็น “ซาตาน”! (เคยมีกระแสว่าเขานับถือซาตาน บ้างก็ว่าเขาเพียงเป็นพวก Antichrist ผมว่าคำตอบบางส่วนอยู่ในเนื้อเพลงจากเพลง Disposable Teens ที่ว่า “I never really hated a one true god but the god of the people I hated” )
.
เขาจะไม่สวมบทเป็นพระเจ้า…จำได้มั้ยเขาบอกเราไว้ว่า เมื่อใดที่เขาเป็นพระเจ้าทุกคนจะต้องตาย
“I went to god just to see, and I was looking at me
saw heaven and hell were lies
when I'm god everybody dies”
(The Reflecting God)
.
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://goo.gl/St7NSG
https://goo.gl/NxojZ8
หน้าที่เข้าชม | 139,097 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 82,874 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 มิ.ย. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |